วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

งานแปลเรื่องสั้น เรื่อง The Ticket winner

งานแปลเรื่องสั้น
 เรื่อง The Ticket winner

  
บทที่ 1

          บ่ายวันหนึ่งในเมืองเล็กๆ แอมม่า คาร์เทอ เดินออกมาจากร้านรองเท้าพร้อมกับหิ้วรองเท้าคู่ใหม่ออกมาด้วย ซึ่งแม้ว่ามันจะเป็นรองเท้าที่ถูกๆแต่เธอก็พึงพอใจที่จะใส่มัน แอมม่ามีอายุ 73 ปีแต่หล่อนก็มีเงินไม่เยอะ หลังจากนั้นเธอก็กำลัง
 ' เธอคิดถึงแก้วกาแฟและตอนนี้ฉันสามารถเดินเล่นได้เพราะมีรองเท้าแล้ว'
          เมืองนี้เป็นเมืองที่เงียบมากและไม่มีใครสักคนบนถนน ทันใดนั้น เอมม่าได้ยินเสียงบางอย่างที่ด้านหลังของเขา แต่เขาก็ไม่ทันได้หันไปมองเขา มีผู้ชายวิ่งเข้ามาหาเธอทางด้านหลัง ตีเข้าทีหัวแล้วก็กระชากกระเป๋าออกจากแขนของเธอ เธอล้มลงแต่เธอก็ยังพยายามมองผู้ชายคนนั้นซึ่งเห็นเป็นผู้ชายที่สูง ผมสีน้ำตาล เขาหยุดแล้วหันมามองหล่อนแล้วก็วิ่งไปพร้อมกับกระเป๋าของหล่อน
เอมม่าร้องตะโกนช่วยฉันด้วยด้วย ช่วยฉันทีแต่ก็ไม่มีใครช่วยเหลือ
          หลังจากนั้นสองสามนาทีเธอก็ลุกขึ้นอย่างช้าๆและเดินไปบ้านที่อยู่ใกล้สุด ซึ่งเจ้าของบ้านนั้นเป็นคนใจดี พวกเขาให้หล่อนทานกาแฟแล้วรถฉุกเฉินก็มาพาเธอไปโรงพยาบาล ที่โรงพยาบาล หมอดูแผลของหัวกับที่หลังของเธอแล้วบอกว่า

          ' คุณจะหายดีในวันหรือสองวันแล้วว่า 'สามีของคุณสามารถช่วยดูแลคุณเวลาอยู่บ้านได้ไหม'   เอมม่าตอบว่า 'สามีฉันตายตั้งแต่แปดปีก่อน ตอนนี้ฉันอยู่บ้านแค่คนเดียว'
          'เราไม่ต้องการให้คุณล้มหรือป่วยเวลาอยู่บ้านน่ะหมอพูด ผมคิดว่าคุณต้องอยู่โรงพยาบาลสักคืนและบางทีอาจจะคืนพรุ่งนี้ด้วยน่ะ
          หลังจากนั้นไม่นาน ตำรวจก็มาโรงพยาบาลแล้วเอมม่าก็บอกเขาเรื่องกระเป๋นที่ถูกฉกไป
           ' มีใครเห็นชายคนนั้นไหม'
           ' ฉันไม่รู้ แต่ไม่มีใครมาช่วยฉันตอนที่ฉันเรียกขอความช่วยเหลือเอมม่าพูด
          ' จริงหรอนี้ แล้วมีอะไรในกระเป๋าของคุณ'
          ' มีเงินเล็กน้อย ลอตเตอรรี่ ฉันซื้อมันทุกวันเสาร์และก็ดูรายการการประกาศผลทุกวันเสาร์ในตอนเย็น ฉันมักจะถูกเสมอเช่น 5 12 23 24 38และ 41 เลขที่ทั้งหมดนี้สำคัญกับฉัน คือฉันเกิดในวันที่ 5 เดือน ธันวาคม 1923 อยู่ที่บ้านเลขที่ 24 ถนนแซนวิช เป็นเวลา 38 ปีแล้ว
          'ใช่ๆ ถูกต้อง ฉันเข้าใจตำรวจพูด
          ในขณะเดี่ยวกัน เขาก็เขียนทุกอย่างลงในสมุดสีดำเล่มเล็กๆ แล้วคุณเห็น'ใบหน้าของคนร้ายไหม' 'ใช่ฉันเห็นตอนที่เขาหันมาดูฉัน ตำรวจเปิดกระเป๋าใลบเล็กของเขาซึ่งมีรูปภาพของตา หู ผมและปาก
          'ผมต้องการรูปลักษณ์ใบหน้าของคนร้าย คุณช่วยผมได้ไหม'
           ' ได้เขาเป็นผู้ชายที่สูง ยาว ผมยุ่งเหยิงสีน้ำตาล สวมเกงขายาว เสื้อสีขาวที่มีรูปของนักฟุตบอลอยู่ด้วย มีตาสีน้ำตาล เมื่อพูดจบ หล่อนก็พิจารณารูปนั้นอย่างละเอียดถี่ถ้วน
          'แล้วเขาสวมรองเท้าสีอะไรตำรวจถาม 'รองเท้าหรอทันใดนั้น หล่อนก็คิดถึงรองเท้าที่หล่อนเพิ่งซื้อ จึงถามหาแล้วบอกเรื่องรองเท้าของเธอ หลังจากนั้นเธอก็ร้องให้ พยาบาลเดินเข้ามาที่เตียงของหล่อน แล้วบอกตำรวจว่า 'หยุดการสืบสวนไว้แค่นี้ก่อน คนไข้ต้องการผักผ่อน'

                                                          บทที่ 2

           เจสัน วิลเลียม กลับบ้านและนั่งลงบนที่นอนของเขา เขามีอายุ 22 ปี อาศัยอยู่กับพ่อแม่บนห้องบนสุดของตึกสูง ทุกๆวันเขาจะออกไปข้างนอกแต่ก็ไม่ได้ทำงาน เขาออกไปขโมยของ ไม่ว่าจะเป็นที่ร้านขายของ รถยนต์ หรือแม้แต่เงินจากคนแก่เช่นเดียวกับเอมม่า คาร์เทอ วันนี้เขาโกรธมากหลังจากที่เขาดูกระเป๋าที่ถูกและเก่าซึ่งมีเงิน สองปอนด์กับเจ็ดสิบสี่เพนนี และสลากกินแบ่ง เจสันรู้เรื่องเกี่ยวกับสลากกินแบ่งเพราะเขาซื้อล็อตเตอรี่ทุกอาทิตย์ เขาหยิบลอตเตอรี่ใส่กระเป๋าแล้วก็ออกไปข้างนอกเพื่อดื่มบางสิ่งบางอย่าง
          ที่โรงพยาบาลนางพยาบาลพาเอมม่าไปที่ห้องพักที่มีผู้ป่วยหญิงคนอื่นๆอีกห้าคน ในห้องมีทีวีที่ทุกแปดโมงทุกคนจะดูรายการประกาศผลลอตเตอรี่ เอมม่าก็เป็นอีกคนหนึ่งที่รอดูแต่เขาก็รู้สึกเหนื่อยไม่นานเขาก็หลับจึงไม่ได้ดูการประกาศรางวัลที่1
          ในอาทิตย์นี้ ในวันอาทิตย์เวลาเที่ยงตรง เจสันลุกขึ้นจากที่นอนแล้วก็ออกไปชงชาดื่ม เขาอ่านหนังสือพิมพ์ของพ่อเขาแล้วก็เห็นการประกาศผลลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง เลขที่มีอยู่ว่า ห้า สิบสอง ยี่สิบสาม ยี่สิบสี่ สามสิบแปด และสี่สิบเอ็ด เขาจึงหยิบลอตเตอรี่ของเขาออกมาตรวจแต่ก็ไม่ถูกรางวัล ต่อมาเขานึกออกว่าเขามีลอตเตอรี่ของเอมม่าอยู่เขาจึงนำออกมาตรวจซึ่งพบว่าเป็นลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง เจสันร้องตะโกนอย่างดีใจ เขาวิ่งไปยังห้องนั่งเล่นแล้วก็จูบแม่ของเขา
          "เป็นอะไร" เจสัน "เกิดอะไรขึ้น" ลิลลี่ ( บุหรี่หล่นจากปาก)ลิลเลี่ยมพูด
 แม่เขาแปลกใจอย่างมากเพราะปกติเจสันจะทุบตี ด่าว่าอย่างเดียว ไม่เคยจูบหรือกอด
          "ล็อตเตอรี่ ผมถูกรางวัลที่หนึ่งในอาทิตย์นี้ ผมรวยแล้ว"
 พ่อของเจสันออกมาจากห้องนั่งเล่นแล้วถามว่า " ทำอะไรกันเสียงดัง"
          " จอย จอย เจสันถูกรางวัลที่หนึ่ง เรารวยแล้ว"
          "ไม่ใช่เรา มีแต่ผมคนเดียวที่รวย" เจสันพูด
           พ่อกับแม่ของเขาต่างพูดกันเรื่องรางวัลที่จะได้รับแต่เจสันก็ไม่สนใจ เขาออกไปที่ตู้โทรศัพท์ข้างถนนเพื่อโทหาใครบางคนแล้วคุยกันเรื่องสำคัญ
           เช้าวันจันทร์ตำรวจเดินทางไปพบเอมม่าพร้อมกับหิวรองเท้าคู่ใหม่ไปให้เอมม่าแล้วพูดว่า
          " มีเด็กผู้หญิงพบของพวกนี้บนถนน จึงเอามาทอบให้สถานีตำรวจ"
          "เธอช่างใจดีเสียจริง พบของแล้วอยากให้ของกลับไปหามือเจ้าของ" เอมม่าพูด
          "เราพบกระเป๋าของคุณแต่ว่ามันไม่มีอะไรอยู่ในนั้น"
          " ไม่เป็นไรหรอก ดีใจแล้วที่ได้กระเป๋าคืน หลานฉันให้มาตั้งนานแล้ว เขาอยู่ออสเตรเลียแต่ก็โทรหาฉันทุกอาทิตย์" ขอบคุณมากๆน่ะ
          เขารู้สึกดีขึ้นในทันที
          ในตอนเย็นรถโรงพยาบาลนำตัวเอมม่ามาส่งที่บ้าน เขาชงชาแล้วก็มานั่งดื่มหน้าทีวีพร้อมกับดูข่าวไปด้วย " ต่อไปนี้เป็นข่าวผู้ถูกรางวัลล็อตเตอรี่ประจำสัปดาห์นี้ เลขที่ออกคือ ห้า สิบสอง ยี่สิบสาม ยี่สิบสี่ สามสิบแปด สี่สิบเอ็ด และคนที่ยืนอยู่ก็เป็นผู้ที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง-เจสัน วิลเลี่ยม เขามีอายุแค่ ยี่สิบสองปีแต่ตอนนี้เขาเป็นคนรวย เขาได้รับเช็คเงินสดจาก ซันชาย ล็อตเตอรี่ จำนวน ห้าล้านปอนด์ มันเป็นเงินจำนวนมาก
          คุณรู้สึกอย่างไรบ้างค่ะ " มันเป็นเรื่องวิเศษมากๆสำหรับผม"
          แล้วคุณจะนำเงินจำนวนนี้ไปทำอะไร " ผมจะไปซื้อบ้านที่มีห้าสิบห้อง รถหรูๆแพงๆ เดินทางไป นิวยอร์ก ไมอามี่หรือที่ใดก็ตามที่อยากจะไป"
          " เอมม่ามองดูเจสันในทีวีที่กำลังยิ้ม แต่ทันใดนั้นเอมม่าก็นึกออกว่าเจสันคือคนที่กระชากกระเป๋าไปจากเขา เขาจึงลุกขึ้นไปที่โทรศัพท์แล้วโทรหาพนักงานตำรวจ
                                              
                                                บทที่ 3
         
          เวลา สี่ทุ่มในคืนวันจันทร์ เจสันรู้สึกมีความสุขอย่างมาก เขายืนอยู่ในห้องอันกว่างใหญ่ในโรงแรมหรูหรา มีผู้คนมากมายทั้ง ช่างภาพโทรทัศน์ นักข่าวและก็ผู้คนจากซันชาย ล็อตเตอรี่ ทุกๆคนในห้องนั้นมีเครื่องดืมอยู่ในมือ มีหญิงสาวคอยบริการแก้วแชมเบน
          " คุณต้องการเหล้าเพิ่มไหม" หญิงสาวคนหนึ่งเอ่ยถาม
          เจสันหยิบแก้วเหล้าขึ้นมาดืมแต่เหล้าก็หกลงเปื้อนเสื้อของเขา เขาหัวเราะแล้วก็พูดว่า " จูบฉัน"          ทันทีทันใดนั้น ชายสองคนก็เปิดประตูเข้ามา เจสันทักทายเขาแล้วก็ชวนเขาดื่มเหล้าแต่ชายเหล่านั้นก็ไม่สนใจเหล้า แล้วตำรวจก็เอ่ยถามว่า " เจสันอยู่ที่นี้ไหม"
          " ผมไง เจสัน คุณต้องการอะไร"
           " เราต้องการถามคำถามคุณสักสองสามคำถาม มิสเตอร์วิลสัน คุณต้องไปโรงพักกับเรา"
           เช้าวันอังคารเจสันรู้สึกเหนื่อยและไม่มีความสุขเลย เขานั่งอยู่ในห้องเล็กในสถานีตำรวจ ซึ่งมีสองตำรวจสองคนนั่งอยู่กับเขา ตำรวจคนหนึ่งยืนอยู่ที่ประตูซึ่งกำลังฟังและจ้องมองเจสันส่วนอีกคนหนึ่งนั่งบนโต๊ะซึ่งกำลังสอบสวนเจสันด้วยคำถามเดิมๆ
          " คุณอยู่ที่ไหนเจสันตอนบ่ายสี่โมงของวันเสาร์"
          "ผมอยู่บ้าน ผมพูดความจริง ไม่เชื่อคุณถามพ่อแม่ผมก็ได้ ผมไม่ได้ขโมยอะไรทั้งนั้น"
          "เราไม่สนใจว่าเกี่ยวกับพ่อแม่ของคุณ เราสามารถถามเขาได้ในภายหลัง แต่ตอนนี้ผมสนใจคุณและคุณต้องตอบคำถามผม คุณอยู่ในเมืองตอนบ่ายวันเสาร์ เพราะมีผู้หญิงเห็นคุณ"
          " ไม่" นั้นเป็นเรื่องโกหก ผมอยู่ที่บ้านตั้งตอนบ่ายยาวไปจนถึงตอนเย็น ผมดูการแข่งขันฟุตบอลในทีวี
          " เล่าให้เราฟังหน่อยว่าผลเป็นยังไง" เจสันไม่พูดอะไร ตัวของเขาเริ่มเหงื่อไหลออกมา
          " ฟุตบอลแข่งขันจบตอนกี่โมง ห้าหรือหก" ตำรวจถาม
          " ใช่ อืม ไม่ ผมจำไม่ได้"
          ตำรวจยิ้มแล้วเอ่ยถามว่า " เงินในกระเป๋ามีเท่าไร"
          "กระเป๋าอะไร" แล้วเจสันก็หยุดไป เขาพยายามเตือนตัวเองให้ระวังคำพูดแล้วเขาก็พูดว่า
          " ผมไม่ได้ขโมยกระเป๋าของหญิงชรา"
           "หญิงชรา ที่ไหนใครพูดอะไรเกี่ยวกับหญิงชรา"
          เมื่อตำรวจพูดแบบนั้นเจสันรู้สึกซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ตำรวจยืนขึ้นแล้วพูดว่า
          " เจสัน ตอนบ่ายวันเสาร์คุณตีหัวหญิงชราคนหนึ่งแล้วกระชากกระเป๋าของหล่อนไป คุณขโมยเงิน ล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลที่หนึ่ง เงินห้าล้านปอนด์จากเอมม่าไป คุณมีปัญหาแล้วล่ะเจสัน ปัญหาใหญ่ซะด้วย" " ผมต้องการพบทนายของผม" เจสันบอกตำรวจอย่างทันทีทันใด
          แต่ที่เขาพูดไปนั้นเขาไม่รู้จักทนายสักคน ในบ่ายวันนี้ตำรวจหลายคนได้นำตัวเจสันไปขึ้นศาลที่เป็นตึกสีเทาใหญ่โตตั้งอยู่ใจกลางของเมือง เจสันกับตำรวจได้นั่งรออยู่ในห้องเล็กๆแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน เจสันรู้สึกไม่มีความสุขเลยที่อยู่แบบนี้ ในชั่วครู่ก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องซึ่งยังเป็นหญิงสาว ผมสั้นสีน้ำตาล หน้าตาดูสดชื่นอย่างมาก ใส่กระโปรงสีดำ สวมเสื้อสีขาวและก็ถือกระเป๋าลูกใหญ่สีดำเข้ามา   "มิสเตอร์วิลเลี่ยม ฉันชื่อ เชลลี่ แคชและฉันเป็นทนายของคุณ"
          ตำรวจเดินออกไปนอกห้อง เชลลี่นั่งลงแล้วเริ่มถามคำถามกับเจสัน ไม่นานก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาแล้วเอ่ยถามว่า "เชลลี่คุณพร้อมจะเข้าในศาลหรือยัง"
          " ใกล้แล้ว รออีกสักครู่" เขามองไปที่เจสันแล้วพูดว่า
          " เราจะทำทุกอย่างให้คุณรอดพ้นในชั้นศาล แล้วฉันต้องการให้คุณอยู่เฉยๆไม่ต้องพูดอะไรทั้งสิ้น ถ้าเป็นไปอย่างที่คิดคุณจะได้รับการปล่อยตัว"
" เมื่อไรเชลลี่" เจสันถามอย่างมีความหวัง คืนนี้ผมกลับบ้านได้ไหม
          " ไม่ คุณกลับบ้านไม่ได้ คุณมองตัวเองสิ ตอนนี้คุณคือคนรวย คุณสามารถซื้อตั๋วไปนิวยอร์ค ฮ่องกง แต่ตำรวจต้องการให้คุณอยู่ภายในประเทศ"
          " แต่ผมต้องการกลับบ้าน" งั้นคุณก็ต้องถามศาลเองว่าอนุญาตไหม
           ผู้ชายสองคนและผู้หญิงหนึ่งคนนั่งที่ปลายสุดของโต๊ะแล้วฟังเรื่องราวของทุกๆคนอย่างตั้งใจ ต่อมาผู้หญิงคนหนึ่งได้พูดว่า
           " กรณีนี้จะต้องมีการตัดสินกันในศาลและเจสันต้องอยู่ที่สถานีตำรวจ"
          ขออภัยแต่มิสเตอร์วิลเลี่ยมนอนที่สถานีตำรวจตั้งแต่เมื่อคืน เขายังเด็กและก็กลัวมากด้วย เขาอยากที่จะกลับบ้าน ผู้หญิงคนนั้นหันไปพูดกับผู้ชายอีกสองคนสักครู่หนึ่งแล้วก็หันกลับมา
           " มิสเตอร์วิลเลี่ยม คุณสามารถกลับบ้านได้แต่คุณต้องทิ้งเช็คเงินรางวัลไว้ที่นี้"
          " ทำไมล่ะ" เจสันถามอย่างรวดเร็ว.
          " เราไม่ต้องการให้คุณหลบหนีไปที่อื่น คุณต้องอยู่กับพ่อแม่ที่บ้าน ไม่ออกไปไหนและทุกๆเช้าตอนสิบโมงคุณต้องมาที่สถานีตำรวจ เข้าใจไหม" " ครับ ผมเข้าใจ" เจสันตอบอย่างเฉยเมย


บทที่4

ทุกคนรักผู้โชคดี

          เมื่อเจสันกลับถึงบ้าน แม่ของเขาดูดีอกดีใจและตื่นเต้นอย่างมาก
          “แม่เห็นลูกกับเช็คห้าล้านปอนด์เมื่อคืนในทีวี ลูกเป็นข่าวใหญ่มาก ทุกคนรู้จักและลูกเป็นคนรวยแล้ว” 
          ตอนนี้ผมมีปัญหาเล็กน้อยแม่ “แม่ช่วยโทรหาตำรวจหน่อยบอกตำรวจว่า ผมอยู่บ้านดูการแข่งขันฟุตบอลทั้งบ่ายวันเสาร์”
          “ไม่ แม่ทำอย่างนั้นไม่ได้ มันไม่ใช่เรื่องจริง”
          “ลูกให้แม่หนึ่งหมื่นปอนด์”
          “ไม่แม่จะพูดเฉพาะความจริงนั้น”
          “สองหมื่นปอนด์”
          “ทำไมลูกถึงต้องการให้แม่โกหกกับตำรวจ ลูกไปทำอะไรมาเมื่อบ่ายวันเสาร์ คงไม่ไปทำเรื่องที่ผิดมาใช่ไหม แล้วตอนนี้ต้องการให้ฉันโกหก ฉันทำไม่ได้หรอก”
          “ สามหมื่นปอนด์ ช่วยผมเถอะแม่ ผมต้องนอนที่สถานีตำรวจทั้งคืน แล้วต้องไปศาลมาอีกแล้วตอนี้พวกเราจะส่งผมไปยังศาลสูงสุด สามหมื่นปอนด์เลยนะ คิดดีๆ”
          “ ตกลง ฉันจะโทรไปหาตำรวจแล้วเล่าให้ตำรวจฟัง แต่ลูกทำอะไรเมื่อวันเสาร์ตอนบ่าย บอกมา”
          “ ไม่นิ ผมไม่ได้ทำอะไร”
          “แล้วทำไมตำรวจจะส่งไปศาลสูงสุด”
          เจสันไม่ตอบอะไรเลย แล้วแม่ก็มองมาที่เขาแล้วถามว่า “แล้วพ่อล่ะ พ่ออยู่ที่บ้านทั้งบ่ายวันเสาร์  ลูกจะไม่ให้เขาหรอ แล้วถ้าเขารู้ล่ะ แล้วจะให้พ่อบอกตำรวจว่ายังไง”
          “ตกลง” ผมจะให้พ่อสามหมื่นปอนด์เช่นกันแต่ไม่ใช่วันนี้เพราะเช็คอยู่ที่ศาลและตอนนี้มีเงินติดกระเป๋าแค่สองปอนด์
          เจสันขึ้นไปนอน แต่เขาก็นอนหลับไม่สนิททั้งคืน  เขาตื่นตั้งแต่รุ่งเช้าแล้วเดินทางไปสถานีตำรวจในตอนสิบโมง
          “ คุณตำรวจ ผมมาแล้ว” “ มีคุณมาเยี่ยมคุณ เขาบอกว่าเป็นภรรยาของคุณ”
          “ ห่ะภรรยาของผม”
ตำรวจเปิดประตูแล้วมีผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากในห้อง
          " สวัสดีเจสัน" ฟิโอน่า วิลเลียมพูด
          ฟิโอน่าเป็นคนตัวเล็กและอ้วน มีผมสีเหลืองและมีปากที่อวบอิ่มสีแดง เขามองไปที่เจสันและพูดกับตำรวจว่า
          " เจสันคือสามีของเขา ลูกของเราเกิดเมื่อสองปีก่อนชื่อ แจ็ค ฉันรักเจสันมาแต่เขาไม่ค่อยรักฉันเลย บางครั้งเขาก็ตีฉันจนฟันหักไปสองซี่ ต่อมาพอลูกเป็นไข้แล้วร้องไห้เสียงดังเขาจึงตีลูก ซึ่งตอนนั้นลูกอายุแค่สองเดือนเท่านั้น"
          " หล่อนโกหก ฉันไม่เคยทำ" เจสันตอบโต้อย่างรวดเร็ว
          " คุณนั้นแหละที่ทำ " หลังจากนั้นฉันก็ออกมาจากชีวิตของเขาพร้อมกับลูกชาย เจสันไม่เคยดูแลฉันหรือลูกเลย ไม่เคยให้เงิน ไม่เคยใยดีกับฉันเลย ส่วนเขาก็กลับไปอยู่กับพ่อแม่ของเขา เขาลืมฉันและลืมลูก และฉันก็ลืมเขาด้วย แต่ฉันเห็นเขาในทีวีซึ่งได้รับเช็คจำนวน ห้าล้านปอนด์ ฉันเป็นภรรยาและแจ็คเป็นลูกดังนั้นฉันต้องได้เงินครึ่งหนึ่งของเงินทั้งหมด"
          " มิสเตอร์วิลเลียม นี้คือภรรยาคุณใช่ไหม" ตำรวจหันมาถามวิลเลียมอย่างใจเย็น
          " อย่าถามเขาเลย ถามฉันดีกว่า เขาเป็นสามีของฉัน ฉันพิสูจน์ได้ ฉันจะไปพาทนายความที่เก่งมาแล้วฉันจะได้เงินสองล้านห้าแสนปอนด์" ฟิโอน่าพูดอย่างรวดเร็ว
          " ทุกคนต้องการเงินจากฉัน" ผมจะไปพบทนายของผม
          แล้วเจสันก็เดินออกไป บ่ายวันพุธ เจสันไปหา เชลลี่ แคชที่สำนักงานซึ่งมีขนาดใหญ่มาก ตอนที่เขาไปมีทั้ง อีแวน โรบินสัน เดนนิสและเดย์อยู่ที่นั้น
           " ทำไมถึงไม่มีชื่อคุณที่นี้ล่ะ" เจสันถามแชลลี่
          " เพราะฉันอายุน้อยแต่มันก็ไม่สำคัญ ผมทำงานให้กับเดนนิส" เชลลี่ตอบพร้อมกับยิ้มไปรอบห้อง       ที่ทำงานของเชลลี่ทั้งเล็กและเต็มไปด้วยหนังสือ เชลลี่เอาหนังสือบนเก้าอี้ออกแล้วเอาเก้าอี้ให้เจสัน นั่ง
          " เจสัน คุณมีลูกกับภรรยาไหม"
          " คุณรู้ได้อย่างไร"
          " ทนายของเมียคุณโทหาฉันเมื่อกี้ ภรรยาของคุณต้องการงานรางวัลจากที่คุณถูกรางวัลและเขาคือภรรยาและลูกของคุณ เขาจะได้มันอย่างง่ายดาย"
           " หล่อนจะไม่ได้อะไรไปทั้งนั้น เพราะหล่อนทิ้งผมไปกับคนรักใหม่ เอาลูกของเราไปด้วย หล่อนไม่เคยเขียนจดหมายหรือโทรหาผมเลย ผมพยายามหาเธอแต่ก็ไม่มีวี่แวว ผมร้องไห้ทุกคืนเลย"
          " แค่ภรรยาของคุณบอกว่าคุณทุบตีเขาและลูก มันเป็นเรื่องจริงไหม"
           " ผมจำไม่ได้แล้ว มันนานมากแล้ว หล่อนต้องการแค่เงิน ทุกคนต้องการแค่เงินจากผม " เขาพูดอย่างโมโห
          " อืมบางทีล็อตเตอรี่นั้นเป็นของ เอมม่าก็ได้เพราะเขาจำตัวเลขบนล็อตเตอรี่ได้ซึ่งมันสำคัญกับเธอมาก"
          "หญิงแกคนนั้นก็แค่ต้องการเงินจากผมเพราะเขาเห็นผมในทีวี เขาแต่งเรื่องมากเองก็ได้นิแล้วกก็บอกว่าเป็นล็อตเตอรี่ของหล่อน แล้วบนล็อตเตอรี่มีชื่อของหล่อนหรอ"
          " ไม่ ไม่มีชื่อใครบนล็อตเตอรี่"
          " งั้น หล่อนก็พิสูจน์ไม่ได้ ว่าเป็นของหล่อน ดังนั้นหล่อนก็จะเอาเงินจากผมไม่ได้"
          " บางทีอาจจะเอาได้หรือไม่เอาได้ เราไม่สามารถเดาได้เลยและตอนนี้เธอก็กลับกำลังหาทนายฝีมือดีอยู่ แต่ส่วนใหญ่จะพงทั้งนั้นซึ่งฉันคิดว่ามันไม่ง่ายเลยที่เธอจะจ้างมาได้
          " หล่อนต้องการเงินทั้งหมดจากฉัน ฟอริน่าต้องการครึ่งหนึ่ง แม่และพ่อต้องการคนละสามหมื่นปอนด์ เห้ออ"
           "คุณกำลังลืมฉัน" เชลลี่กล่าว
          " ฉันไม่เข้าใจ ยังไง" เจสันถามอย่างรวดเร็ว
           " อย่างที่ฉันบอกคุณ ทนายดีๆน่ะแพงและฉันก็ทำงานอย่างมากมายเพื่อคุณ ตอนนี้คุณไม่สามารถจ่ายฉันได้เพราะเช็คคุณอยู่สถานีตำรวจก็ไม่เป็นไร ฉันรอได้"
           เจสันกล่าวขอบคุณที่เชลลี่เข้าใจเขาแล้วก็ชมเขา เชลลี่จึงถามเรื่องราวเกี่ยวกับการกระชากกระเป๋า         " บอกฉันมาเกี่ยวกับการกระชากกระเป๋า"
          " ไม่ ไม่ผมไม่ได้ทำ" เชลลี่จ้องมองที่เจสันด้วยสายตาอิดโรย
          " เจสัน ฉันต้องการช่วยคุณ แต่มันยากมากคุณรู้ไหม เอมม่าจำหน้าคุณได้ต่อมาหล่อนเห็นหน้าคุณในทีวี พอหล่อนไปศาลแล้วถ้าหล่อนยืนขึ้นแล้วบอกว่า คุณเป็นคนที่กระชากกระเป๋าขโมยเงินขโมยล็อตเตอรี่ไปล่ะ"
           " แต่มันไม่ใช่ความจริง ผมดูฟุตบอลอยู่ที่บ้าน ถ้าไม่เชื่อคุณไปถามแม่ผมสิ"
          " คุณให้เงินแม่คุณเท่าไรเจสัน สามหมื่นปอนด์ใช่ไหม" เขสันโกรธจนหน้าแดงก่ำ
          เขาลุกขึ้นเพื่อจะตีเชลลี่ เชลลี่ก็หันมามองที่เจสันแล้วพูดว่า
          "เจสัน ในศาลสูงสุด ผู้คนมากมายจะจ้องมาที่คุณ แล้วทุกๆคนจะคิดว่า คุณเป็นชายหนุ่มที่น่าเกลียด ทุบตีภรรยา พ่อแม่ ลูกแล้วก็หญิงชรา ขโมยสิ่งของ ชายหนุ่มผู้โชคดีมีเงินห้าล้านปอนด์แต่ไม่สนใจไม่ให้เมีย ลูกชายสักเพนีเดียว" ซึ่งฉันจะช่วยอะไรคุณไม่ได้ถ้าคุณไม่พูดความจริงในศาล และคุณต้องขอโทษทุกคนในศาล ว่าผมขอโทษ ผมยังเด็ก ซึ่งจะทำให้คุณรอดพ้นจากปัญหา แต่คุณต้องพูดความจริงในศาล เจสันเงียบแล้วครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งแล้วเขาก็ตอบ
          ตกลง " บางทีผมอาจจะขโมยกระเป๋ามาแต่ล็อตเตอรี่มันเป็นของผม ไม่ได้อยู่ในกระเป๋าใบนั้น ซึ่งผมซื้อมาเองด้วยเงินของผมได้ไหม" เชลลี่เงียบไปพักใหญ่แล้วหันมาตอบด้วยน้ำเสียงช้าๆว่า
          " ได้ คุณขโมยกระเป๋าแต่ลอตเตอรี่คุณซื้อมันเอง"


บทที่5
เอมม่ามีทนายความแล้ว

          เย็นวันพุธ ไซมอน คาร์เทอ โทหาเอมม่าผู้เป็นแม่ของเขา ไซมอนอาศัยอยู่ใกล้กับเมืองซิสนีย์กับภรรยาและลูกๆอีกสองคน เขาโทรหาเอมม่าทุกสัปดาห์ เอมม่าบอกไซม่อนเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นทำให้ไซม่อนโกรธอย่างมาก
          " แล้วหัวแม่เป็นอะไรไหม ปกติดีไหม " ไซม่อนถามด้วยความเป็นห่วง
          " ปกติดี แต่แม่โกรธมาก เด็กผู้ชายคนนั้นมันขโมยลอตเตอรี่ไป ตอนนี้มันก็ได้เช็คเงินรางวัลห้าล้านปอนด์แต่แม่ไม่ได้อะไรเลย แม่ไม่ต้องการที่จะรวยแต่แม่ต้องการไปหาลูกโมเลี่ย หลานๆที่ออสเตรีย มันไม่ถูกต้องเลย แม่ต้องเป็นผู้ถูกรางวัล แม่ซื้อมันมา แต่เด็กคนนั้นขโมยมัน    
          " หลังจากที่พูดจบ เอมม่าก็ร้องไห้
          " แม่ หยุดร้องแล้วไปหาทนาย"
          " แม่ไม่รู้จักทนายสักคน"
          " แม่ลองดูในสมุดโทรศัพท์ ในนั้นมีทนายในทุกๆเมือง"
          " แต่ทนายมันแพงมาก แม่ไม่มีเงินจ่ายหรอก"
          " ลูกจ่ายได้แม่ ลูกจะส่งเงินบางส่วนไปให้ หยุดร้องแล้วแต่งตัวดีๆไปหาทนายน่ะแม่"
          " ไซม่อน ลูกคือคนที่วิเศษสำหรับแม่"
          " แม่ก็เป็นคนวิเศษของลูกเหมือนกัน วางสายก่อนน่ะ โชคดีครับ"
          "สวัสดี มิส คาร์เทอ มีอะไรให้ผมช่วยไหม"
          เช้าวันพฤหัสเอมม่าเดินทางไปที่ สำนักงานของแอดวาน โจนส์ ผู้ชายที่ร่างกายใหญ่โต ใบหน้าสีแดงและมีดวงตาสีฟ้า
          " เรื่องเกี่ยวกับล็อตเตอรี่"
          "ออ ล็อตเตอรี่ ทุกๆคนอยากถูกรางวัลทั้งนั้น"
          " แต่ฉันไม่ต้องการ มันคือล็อตเตอรี่ของฉัน เลขของฉัน"
          " เล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังหน่อยตั้งแต่เริ่มเลย"
          เอมม่าจึงเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้โจนส์ฟัง เขาตั้งใจฟังอย่างมาก
          "บอกตัวเลขบนล็อตเตอรี่ให้ผมอีกสักรอบ
          " ห้า สิบสอง ยี่สิบสาม ยี่สิบสี่ สามสิบแปด สี่สิบเอ็ด "
          แล้วคุณซื้อล็อตเตอรี่ที่มีตัวเลขนี้เป็นประจำ ทำไมหรอ คุณคาร์เทอ" มิสเตอร์โจนส์ถามอย่างสงสัย        " ตัวเลขทั้งหมดมันสำคัญกับฉันมาก ฉันเกิดวันที่ 5 เดือนธันวาคม คศ.1923 อาศัยอยู่ที่ถนนแซนวิช 24 มาเป็นเวลา 38 ปีแล้วแล้วสุดท้ายคืออายุของลูกชายเขา"
          " แล้วคุณต้องการให้ผมทำอะไร คุณคาร์เทอร์"
          "ฉันอยากให้คุณคุยกับ ซันชายล็อตเตอรี่หน่อย มิสเตอร์โจนส์ พวกเขามีล็อตเตอรี่ของฉันอยู่"   "แต่ มิสคาร์เทอ คุณจะสามารถทำอะไรได้ ล็อตเตอรี่เหมือนกันทั้งนั้นและก็ไม่ใช่มีชื่อของคนซื้อ บางทีมันอาจจะเป็นล็อตเตอรี่ของคุณแต่คุณก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้"
          "แต่เราทำได้ ล็อตเตอรี่ของฉันแตกต่าง ฉันจูบล็อตเตอรี่ของฉันทุกใบ"
          "ทำไมคุณถึงทำแบบนั้น"
          "ลูกของฉันอยู่ออสเตรเลียกับครอบครัวของเขา ฉันจะไปเยี่ยมเขาแต่ตั๋วเครื่องบินมันแพงมาก ดังนั้นทุกอาทิตย์ ฉันซื้อลอตเตอรี่ ฉันคิดถึงเขาจึงจูบล็อตเตอรี่ ไซม่อนโทรหาฉันทุกอาทิตย์ เขาไม่เคยลืมฉัน"
          ทนายยิ้มแล้วพูดว่า " ผมเข้าใจ" แม่ของผมก็อยู่ที่ วอล และฉันก็โทรหาหล่อนทุกอาทิตย์ คุณกลับบ้านได้แล้ว ผมจะทำธุระสักนิด พรุ่งนี้คุณมาหาผมใหม่อีกครั้งนะ
  
บทที่ 6
เงินกับล็อตเตอรี่

           คืนวันพุธเจสันนอนไม่หลับทั้งคืนรุ่งเช้าเขาลุกขึ้นแต่เช้าตรู่แล้วนั่งกินน้ำชาหน้าทีวีแล้วนั่งคิดอะไรบ้างอย่าง "ผมจะทำอย่างไร ตำรวจต้องส่งเข้าคุกอย่างแน่นอนที่ขโมยกระเป๋าจากผู้หญิง แต่ผมจะต้องขอโทษผู้หญิงคนนั้นในศาล ขอโทษทุกคน บางทีอาจจะติดคุกแค่สิบแปดเดือน แต่ถึงอย่างไรผมก็ไม่อยากเสียเงินห้าล้านดอลลาร์ไป และต้องการให้ศาลเชื่อว่ามันเป็นล็อตเตอรี่ของผม"
          เขาดื่มชาอีกครั้งแล้วคิดถึงคำที่ เชลลี่เคยพูดไว้ " พวกเขาไม่เป็นไม่เหมือนคุณและพวกเขาจะคิดว่าคุณเป็นเด็กหนุ่มที่น่ารังเกียจ"
          เจสันพยายามคิดหาทางออกที่จะไม่เสียเงินห้าล้านปอนด์ไปจนเขาคิดว่า" เขาจะเอาเงินส่วนหนึ่งไปบริจาค ให้เด็กๆ ที่เขาเห็นในทีวีในวันคริสมาสต์ที่ ส่งหมอและพยาบาลไปอินเดีย ซึ่งพวกเขาต้องการเงินเพื่อทำสิ่งเหล่านั้น ถ้าผมทำอย่างไรใครก็ว่าผมไม่ได้"
          เก้าโมง เจสันเดินทางไปยังสถานที่รับช่วยเหลือเด็กที่ตั้งอยู่ในเมือง ที่นั้นมีผู้หญิงสองคนทำหน้าที่อยู่
          " สวัสดีตอนเช้า มีอะไรที่พวกเราช่วยได้ไหม หรือว่าคุณกำลังมองหาเสื้อถูกๆ"
          " ไม่ครับ ผมต้องการมาบริจาคเงินครับ"
          " มันเป็นเรื่องที่ดีมากเลย คุณรู้ไหม"
          " ครับ ผมต้องการบริจาคเงิน ห้าแสนปอนด์เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ"
          "ฮ่ะ ห้าร้อยปอนด์ มันเป็นเงินที่มากเลยเชียว "
          " ไม่ใช่ครับ เงินจำนวนห้าแสนปอนด์ต่างหากล่ะ"
          ผู้หญิงทั้งสองคนหันมามองที่เขา" คุณมีเงินห้าแสนปอนด์หรอ"
          " ใช่ มีสิ แต่ตอนนี้มันไม่ได้อยู่กับผม มันอยู่ที่ศาล"
          " คุณไม่มีเงิน คุณก็ออกไป"
          " ไม่ ผมมีเงิน ผมถูกรางวัลที่หนึ่ง ผมให้คุณหนึ่งล้านปอนด์เพื่อช่วยเด็ก"
          ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดไปเปิดประตู แล้วผู้หญิงอีกคนก็ไล่เขาออกไป
         
          บ่ายวันพฤหัส แอดเวิน โจนส์ทนายของเอมม่าเดินทางไปยัง ซันชาย ล็อตเตอรีพร้อมกับ เดวิส เรย์ เขาบอก เรย์เกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นดับเอมท่าและลอตเตอรี่ของเธอ
          " คุณดูสิ คุณโจนส์ วิลเลี่ยมมีล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัล แล้วเราก็ให้เช็คกับเขา ผมขอโทษที่ช่วยคุณและเอมม่าไม่ได้"
          " แต่มันไม่ใช่ล็อตเตอรี่ของวิลเลี่ยมมันเป็นของเอมม่า "
          " คุณไม่สามารถพิสูจน์ได้น่ะ เพราะทุกใบมันก็เหมือนกัน และยังไม่มีชื่อว่าเป็นของใคร"
          " แต่ผมพิสูจน์ได้ ล็อตเตอรี่ของเอมม่าจะแปลกจากของคนอื่น ล็อตเตอรี่ของเขาจะมีรอยจูบรูปตัวเอ็กอยู่เสมอ คุณดูสิ เขาซื้อตัวเลขนี่เสมอและจูบเหมือนกันทุกใบ"
          หลังจากนั้น โจนส์ก็อธิบายเรื่องเกี่ยวกับลูกชายของเขาให้ฟังแล้วขอร้องให้ เรย์ไปดูที่ล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัล มิสเตอร์เรย์หายเข้าไปสักพักหนึ่งแล้วออกมาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
          " เป็นยังไงบ้าง เรย์"
          " ผมบอกไม่ได้นะ คุณโจนส์ ล็อตเตอรี่ทุกใบถูกตรวจด้วยคอมพิวเตอร์หลายครั้ง มันยากที่จะดูรอยจูบนั้น"
          " คุณบอกผมมาดีกว่าว่า มีรอบจูบรูปตัว เอ็ก บนล็อตเตอรี่ไหม"
         
          เรย์จ้องหน้าโจนส์ด้วยความโมโห" อาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ รอยจูบรูปตัวเอ็กจะพิสูจน์อะไร คนเป็นร้อยเป็นพันอาจจะทำเหมือนกัน ถึงแม้ว่ามันเป็นของ มิสเอมม่าแล้วจะรู้ได้อย่างไร ตอบผมหน่อย"
          " ผมบอกคุณไม่ได้หรอก แต่ตำรวจทำได้ แต่ตอนนี้คุณช่วยโทรไปที่ธนาคารแล้วระงับการจ่ายเช็ค แล้วส่งมันให้ตำรวจ ตำรวจต้องการมัน"
          เรย์เริ่มมีอาการหม่นหมอง" ได้ ผมจะพยายาม"
          แต่ตอนนี้คุณต้องการทนายความ โจนส์พูดอย่างใจเย็น " เพราะว่า มิสเทอร์ ต้องการเงินของหล่อน
          " เช่นเดียวกับ เจสันวิลเลียม เขาเดินทางไปที่ทำงานของเชลลี่ เขาเล่าเรื่องที่บริจาคเงินให้ฟัง
          " พอเถอะ เจสันหยุดเล่าเรื่องโกหกให้ฉันฟังได้แล้ว"
          " ไม่น่ะ ผมพูดความจริง ผมไปที่บริจาคเงินช่วยเหลือเด็กมา เขาไล่ผมออกมาเพราะผมไม่มีเงิน โทรหาเขาหน่อยผมต้องการบริจาคเงินหนึ่งล้านปอนด์ "
          " เจสัน คุณลืมไปแล้วหรือ ว่าเช็คอยู่ที่ศาล"
          " ผมรู้แต่พอผมได้มันมาผมจะเอาไปบริจาคหนึ่งล้านปอนด์ ผมคิดอย่างรอบคอบแล้ว ผมถูกรางวัลที่หนึ่งผมต้องทำสิ่งดีๆบ้าง ผมจะช่วยเด็กในแอฟริกาและอินเดีย ได้โปรดช่วยผมเถอะนะ เชลลี่ผมขอร้อง"
          " ได้ ฉันเชื่อคุณ แต่คุณต้องเขียนจดหมายเพื่อช่วยเหลือเด็กเหล่านั้น แล้วบอกทุกอย่างเกี่ยวกับเงินหนึ่งล้านปอนด์ทั้งหมดนั้นแล้วลงชื่อของคุณ ฉันก็จะลงชื่อด้วย แล้วฉันจะส่งจดหมายไปที่รับบริจาค "

บทที่ 7
ใครคือผู้ถูกรางวัล

         
          เย็นวันพฤหัสบดี เชลลี่ แคช กลับเมื่อเธอไปถึงเธอก็พบ โคลิน สามีของเธอนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น
                   " สวัสดี วันนี้เป็นวันที่ดีเลยใช่ไหม"
                   " ก็ไม่เลวน่ะ ฉันกำลังทำงานที่น่าตื่นเต้นอยู่ ฉันจะเป็นข่าวในคืนนี้ เปิดทีวีสิ"
           สิบนาทีต่อมา ก็มีการประกาศข่าว
                   " ต่อไปจะเป็นข่าวเกี่ยวกับซันชาย ล็อตเตอรี่ ผู้ถูกรางวัลที่หนึ่งเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคือ เจสันวิลเลียม เขามีล็อตเตอรี่ที่ถูกรางวัลและ ซันชายล็อตเตอรี่ก็มอบเช็คห้าล้านปอนด์ให้เขาและตอนนี้เจสันต้องการบริจาคเงินถึงหนึ่งล้านปอนด์เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ แต่มันเป็นเงินของ เจสันหรือ มิสเอมม่า คาร์เทอได้เล่าเรื่องให้เราฟังว่า บ่ายวันเสาร์ในเมือง เจสันได้เข้ามาตีหัวเขาแล้วกระชากกระเป๋าไป ซึ่งลอตเตอรี่ที่ถูกรางวัลอยู่ในกระเป๋าของเธอ เอมม่าสามารถจำตัวเลขได้ดีเพราะวันสำคัญกับเธอ แล้วตกลงว่ามันเป็นลอตเตอรี่ของใคร แล้วใครจะได้เงินไป ที่นั่งอยู่ตอนนี้คือทนายความ เราจะมาถามเขากันดีกว่า"
          " ทนายคนนี้พูดน่าสนใจมาก เขาเป็นใครกัน" โคลินถามด้วยความสงสัย
          " ออ แซม กรีน เขาเป็นทนายที่เก่งมาก เขาทำงานให้กับซันชาย ล็อตเตอรี่"
           " แล้วคุณทำงานให้ใครล่ะ เชลลี่"
          " เจสัน วิลเลี่ยม"
           " ชายที่กระชากกระเป๋านั้นหรอ แล้วเขาไม่ถูกจำคุกหรือไง"
          "บางทีอาจจะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้ แต่พอเขาออกมาเขาได้จะได้เงินห้าล้านปอนด์หรือสี่ล้านปอนด์"         " แต่มันเป็นเงินของเอมม่า เป็นลอตเตอรี่ของเธอไม่ใช่รึ"
          " ใช่มันเป็นของเธอแต่เราจะรู้ได้อย่างไร อีกอย่าง เอมม่าเป็นหญิงชรา เขาลืมอะไรได้ง่ายๆ บางทีเธอคิดว่าเป็นตัวเลขที่เธอซื้อแต่วันนั้นเธอไม่ซื้อก็เป็นได้"
          " แล้วคนกระชากกระเป๋าเป็นผู้ถูกรางวัล เขาตีหัวหญิงชราแล้วกระชากกระเป๋า แล้วได้เงินห้าล้านปอนด์ มันวิเศษมาก"
           " ฉันรู้แล้วมันก็ยากที่จะเชื่อว่าเจสันเป็นเจ้าของ แต่เขามีภรรยา มีลูก ภรรยาหนีจากเขาเพราะเขาทุบตีเขาและลูก แต่อย่างไรเราก็ต้องระวังเพราะเจสันอาจพูดความจริงเกี่ยวล็อตเตอรี่ในศาลก็ได้"
          " ไม่มีทาง เชื่อผมสิเชลลี่ ผมเรื่องเข้าอยู่ในศาล ทุกๆคนต่างก็เชื่อ เอมม่า คาร์เทอทั้งนั้นไม่มีใครเชื่อผู้ชายที่น่ารังเกียจอย่าง เจสันหรอก"
          " ไม่หรอก เขาบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลือเด็กตั้ง หนึ่งล้านปอนเชียวนะ ทุกๆคนจะชื่นชมเขา" โคลินหัวเราะ
          " แล้วใครกันละที่เป็นผู้ชนะในครั้งนี้"
           " ก็ทนายไง ห้าล้านปอนด์เป็นเงินที่มากเลยสำหรับพวกเรา คุณดูสิว่ามีทนายกี่คน ทนายของเอมม่า ทนายของเจสัน ทนายของภรรยาเจสัน ทนายของซันชายล็อตเตอรี่ ทนายของที่รับบริจาคเงินเพื่อช่วยเหลื่อเด็ก เราโต้เถียงกันในศาลวันต่อวัน คุณก็รู้นิว่าค่าทนายมันแพงมาก เมื่อคดีจบเราก็จะได้รับเงินก้อนโต เงินทั้งหมดก็จะมาเป็นของพวกเรา"


          เชลลี่ยิ้มอย่างมีความสุขแล้วเอ่ยถาม โคลิน" เราจะออกรถคันใหม่รุ่นอะไรดี"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น